ระบบรถไฟฟ้า
รถไฟฟ้ามหานคร สายนัคราพิพัฒน์ (สายสีเหลือง) หรือ รถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลือง
(Innovia Monorail 300)
รถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลืองมีทั้งหมด 30 ขบวน
แต่ละขบวนประกอบด้วยตู้โดยสาร 4 ตู้ โดยมีการจัดเรียงตู้โดยสาร
ดังนี้ A1-C1-D1-B1 รถไฟฟ้าออกแบบให้สามารถวิ่งได้ 2 ทิศทาง
และสามารถต่อขยายเพิ่มเติมตู้โดยสารได้ถึง 7 ตู้ต่อขบวน
โดยในแต่ละตู้โดยสารขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าซื่งติดตั้งในแต่ละชุดโบกี้
และวิ่งบนคานทางวิ่งด้วยล้อยาง
ลักษณะเฉพาะของรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลืองมีลักษณะแตกต่างกันกับรถไฟฟ้าสายอื่นๆ
เนื่องจากเป็นระบบขับเคลื่อนแบบไร้คนขับและระบบอัตโนมัติโดยมีการควบคุมและดูแลผ่านระบบอานัติสัญญาณในขณะให้บริการ

ระบบขับเคลื่อนและระบบไฟฟ้าเสริมในแต่ละตู้โดยสารรับไฟฟ้ากระแสตรง
750
โวลต์จากรางจ่ายไฟฟ้าและจ่ายให้ตู้ควบคุมผ่านทางขารับกระแสไฟฟ้าซึ่งสัมผัสกับรางจ่ายไฟฟ้า
เมื่อตู้ควบคุมได้รับไฟฟ้ากระแสตรง 750 โวลต์
จากนั้นจะส่งไปที่ระบบขับเคลื่อนและระบบไฟฟ้าเสริมตามลำดับ
สำหรับระบบไฟฟ้าเสริม ทำหน้าที่แปลงไฟฟ้ากระแสตรง 750
เป็นไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส 380 โวลต์ ความถี่ 50 เฮิรตซ์,
ไฟฟ้ากระแสสลับ 1 เฟส 220 โวลต์ ความถี 50 เฮิรตซ์ และไฟฟ้ากระแสตรง
110 โวลต์ และไฟฟ้ากระแสตรง 24 โวลต์ ตามลำดับ
เพื่อจ่ายให้กับระบบปรับอากาศ และระบบระบายความร้อนของอุปกรณ์ต่างๆ
ของรถไฟฟ้า, เต้ารับไฟฟ้าและโหลดไฟฟ้าแรงดันต่ำต่างๆ เช่น
ชาร์จแบตเตอรี่, ระบบแสงสว่าง และระบบควบคุมต่างๆ บนขบวนรถไฟฟ้า
ตามลำดับ
รถไฟฟ้า 1 ขบวนแบบ 4 ตู้โดยสาร มีความยาวรวมทั้งหมด 50.474 เมตร, ความกว้างของตู้โดยสารโดยรวม (ขณะเปิดประตู) 3.162 เมตร และความกว้างของตู้โดยสารโดยรวมขณะปิดประตู 3.142 เมตร และความสูงโดยรวมจากคานทางวิ่งจนถึงเสาสัญญาณควบคุมบนหลังคาเท่ากับ 3.120 เมตร ในขณะที่ผู้โดยสารนั่งเต็มเก้าอี้ทุกตัว รวมกับจำนวนผู้โดยสารที่ยืนในอัตรา 8 คนต่อตารางเมตร สามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารในแต่ละตู้โดยสาร ดังนี้ ตู้ท้าย (A1 หรือ B1) และตู้กลาง (C1 หรือ D1) รองรับได้ตู้ละ 178 คน และ 191 คนตามลำดับ รวมทั้งขบวนหรือ 4 ตู้โดยสาร สามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารได้ทั้งหมด 738 คน ในส่วนของตู้โดยสาร ตู้ท้าย (A1 หรือ B1) ประกอบด้วยเก้าอี้ตู้ละ 14 ที่นั่ง และ ตู้กลาง (C1 หรือ D1) ตู้ละ 16 ที่นั่ง หรือ 60 ที่นั่งต่อขบวน ระบบประตูผู้โดยสารเป็นแบบบานเลื่อน โดยแขวนติดตั้งภายนอกขบวนรถไฟฟ้า ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ทั้งหมด 8 ประตู ต่อด้านในแต่ละขบวนรถไฟฟ้า
โดยมีความกว้างเท่ากับ 1.600 เมตรขณะเปิด และสูงเท่ากับ 1.930 เมตร โครงสร้างของตัวรถไฟฟ้าสร้างจากอะลูมิเนียมน้ำหนักเบาสำหรับส่วนหลังคา ผนังด้านข้าง ผนังด้านท้าย และโครงด้านล่างตัวรถไฟฟ้าสร้างด้วยเหล็กเชื่อมประกอบเข้าด้วยกัน
รถไฟฟ้า 1 ขบวนแบบ 4 ตู้โดยสาร มีความยาวรวมทั้งหมด 50.474 เมตร, ความกว้างของตู้โดยสารโดยรวม (ขณะเปิดประตู) 3.162 เมตร และความกว้างของตู้โดยสารโดยรวมขณะปิดประตู 3.142 เมตร และความสูงโดยรวมจากคานทางวิ่งจนถึงเสาสัญญาณควบคุมบนหลังคาเท่ากับ 3.120 เมตร ในขณะที่ผู้โดยสารนั่งเต็มเก้าอี้ทุกตัว รวมกับจำนวนผู้โดยสารที่ยืนในอัตรา 8 คนต่อตารางเมตร สามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารในแต่ละตู้โดยสาร ดังนี้ ตู้ท้าย (A1 หรือ B1) และตู้กลาง (C1 หรือ D1) รองรับได้ตู้ละ 178 คน และ 191 คนตามลำดับ รวมทั้งขบวนหรือ 4 ตู้โดยสาร สามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารได้ทั้งหมด 738 คน ในส่วนของตู้โดยสาร ตู้ท้าย (A1 หรือ B1) ประกอบด้วยเก้าอี้ตู้ละ 14 ที่นั่ง และ ตู้กลาง (C1 หรือ D1) ตู้ละ 16 ที่นั่ง หรือ 60 ที่นั่งต่อขบวน ระบบประตูผู้โดยสารเป็นแบบบานเลื่อน โดยแขวนติดตั้งภายนอกขบวนรถไฟฟ้า ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ทั้งหมด 8 ประตู ต่อด้านในแต่ละขบวนรถไฟฟ้า
โดยมีความกว้างเท่ากับ 1.600 เมตรขณะเปิด และสูงเท่ากับ 1.930 เมตร โครงสร้างของตัวรถไฟฟ้าสร้างจากอะลูมิเนียมน้ำหนักเบาสำหรับส่วนหลังคา ผนังด้านข้าง ผนังด้านท้าย และโครงด้านล่างตัวรถไฟฟ้าสร้างด้วยเหล็กเชื่อมประกอบเข้าด้วยกัน

แต่ละตู้โดยสารประกอบด้วยชุดโบกี้จำนวน 2 ชุด
โดยแต่ละชุดโบกี้มีล้อรับน้ำหนัก 2 ล้อ เพลาเดี่ยว ล้อประคอง 6
ล้อ ทำหน้าที่คร่อม
และประคองให้ตู้โดยสารเคลื่อนที่ไปตามคานทางวิ่งตลอดสายทาง
ระบบขับเคลื่อนประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบขั้วแม่เหล็กถาวรต่อเข้ากับชุดเฟืองเกียร์ที่ติดตั้งบนโครงสร้างโบกี้เพื่อขับเคลื่อนล้อรับน้ำหนักให้วิ่งไปตามคานทางวิ่ง
ซึ่งด้วยการออกแบบชุดโบกี้ดังกล่าว ทำให้ INNOVIA Monorail 300
เป็นรถโมโนเรลที่มีความสูงของพื้นรถต่ำ
ดังแสดงละเอียดลักษณะตามรูปภาพ

ข้อมูลและรายละเอียดส่วนประกอบต่างๆ ของขบวนรถไฟฟ้า
- เสาค้ำ ห่วง และราวจับต่างๆ ด้านในขบวนรถไฟฟ้าถูกออกแบบไว้เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถใช้จับยึดขณะโดยสารบนขบวนรถแต่ละตู้ เพื่อให้ผู้โดยสารยืนได้อย่างปลอดภัย และสามารถเอื้อมถึง
- จัดเตรียมพื้นที่สำหรับจอดรถเข็นสำหรับผู้พิการ และเข็มขัดนิรภัยเพื่อใช้ยึดกับรถเข็นเพื่อป้องกันการเคลื่อนไหว บริเวณตู้ท้ายขบวนทั้ง 2 ฝั่ง (ตู้ A1 และ B1)
- เครื่องตรวจจับควัน มีการติดตั้งเครื่องตรวจจับควันในแต่ละตู้โดยสาร
- มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดในแต่ละตู้ เพื่อดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสาร
- มีการติดตั้งถังดับเพลิงในแต่ละตู้ ได้แก่บริเวณใต้แผงควบคุมรถไฟฟ้า บริเวณใต้เก้าอี้นั่งแบบแถว 4 ที่นั่ง เพื่อเข้าถึงได้ง่ายและใช้งานได้สะดวก
- บันไดฉุกเฉิน ติดตั้งไว้บริเวนตู้กลางในแต่ละขบวนรถไฟฟ้า (C1 และ D1) กรณีที่จะต้องทำการอพยพด้วยตัวเองกรณีฉุกเฉิน
- อุปกรณ์สื่อสารสำหรับผู้โดยสารกับศูนย์ควบคุมรถไฟฟ้ากรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยติดตั้งไว้ 2 ชุด แยกเป็นฝั่งละ 1 ชุด ในแต่ละตู้โดยสาร
- ป้ายบอกปลายทางและข้อความพิเศษ โดยติดตั้งไว้ตู้ท้ายขบวนทั้งสองฝั่ง (A1 และ B1) เพื่อแจ้งข้อมูลการเดินทางให้กับผู้โดยสารทราบ
- ป้ายไฟวิ่งเพื่อบอกสถานะสถานีปัจจุบัน และตำแหน่งของสถานีต่างๆ ระหว่างให้บริการเพื่อให้ผู้โดยสารมีความสะดวกในการเดินทาง และใช้เป็นข้อมูลการเดินทาง รวมถึงสถานะการใช้งานของประตู โดยติดตั้งไว้บริเวณด้านบนของประตูผู้โดยสาร
- หน้าต่างระบายอากาศกรณีฉุกเฉิน ผู้โดยสารสามารถเปิดใช้งานได้ในกรณีฉุกเฉิน โดยติดตั้งไว้ทุกๆ ตู้โดยสาร
- ระบบเบรคใช้ระบบควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิค เบรคด้วยแรงสปริง คลายเบรคด้วยแรงดันน้ำมัน โดยการออกแบบคำนึงถึงการป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น
- ระบบหล่อเย็น ใช้สำหรับหล่อเย็นระบบขับเคลื่อน และระบบไฟเสริมต่างๆ
- ระบบปรับอากาศ ถูกติดตั้งในแต่ละตู้โดยสาร ทำหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิภายในห้องผู้โดยสารและความสะดวกสบายของผู้โดยสาร ระบบทำความเย็นใช้น้ำยาชนิด R407C